วันที่ 12 เดือน กุมภาพันธ์ 2558
เวลา 08.30-12.00
วิชา EAED3214 การจัดประบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
การรสอนเด็กพิเศษและเด็กปกติ
ทักษะของครูและทัศนคติ
การฝึกเพิ่มเติม
-อบรมระยะสั้น สัมมนา
-สื่อต่างๆ
การเข้าใจภาวะปกติ
-เด็กมักคล้ายคลึงกันมากกว่าแตกต่าง
-ครูต้องเรียนรู้ มีปฎิสัมพันธ์กับเด็กปกติและเด็กพิเศษ
-รู้จักเด็กแต่ละคน
-มองเด็กให้เป็น เด็ก
การคัดแยกเด็กที่มีพัมนาการช้า
-การเข้าใจพัฒนาการของเด็กจะช่วยให้ครูสามารถมองเห็นความแตกต่างของเด็กแต่ละคนได้ง่าย
ความพร้อมของเด็ก
-วุฒิภาวะ
-แรงจูงใจ
-โอกาส
การสอนโดยบังเอิญ
-ให้เด็กเป็นฝ่ายเริ่ม
-เด็กเข้าหาครูมากเท่าไหร่ยิ่งมีโอกาสในการสอนมากขึ้นเท่านั้น
การสอนโดยบังเอิญ (ต่อ)
-ครูต้องพร้อมที่จะพบเด็ก
-ครูมีความสนใจเด็ก
-ครูต้องมีความรู้สึกที่ดีต่อเด็ก
-ครูต้องมีอุปกรณ์และกิจกรรมกล่อมใจเด็ก
-ครูต้องใช้เวลาในการติดต่อไม่นาน
-ครูต้องทำให้เป็นเรื่องสนุกสนาน
อุปกรณ์
-มีลักษะง่ายๆ
-ใช้ประโชน์ได้หลายอย่าง
-เด็กพิเศษได้เรียนรู้จากจากสังเกตและเลียนแบบเด็กปกติ
-เด็กปกติเรียนรู้ที่จะให้ความช่วยเหลือเด้กพิเศษ
ตารางประจำวัน
-เด็กพิเศษไม่สามารถยอมรับการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ทำอยู่เป็นประจำ
-กิจกรรมต้องเรียงลำดับเป็นขั้นตอนและทำนายได้
-เด็กจะรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจ
-การสลับกิจกรรมที่อยู่เงียบๆกับกิจกรรมที่เคลื่อนไหวมากๆ
-คำนึงถึงความพอเหมาะของเวลา
-การแก้แผนการสอนให้เหมาะสมกับสถานการณ์
-ยอมรับขอบเขตความสามารถของเด็ก
-ครูต้องตอบสนองต่อเป้าหมายที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็กแต่ละคน
เทคนิคการให้แรงเสริม
แรงเสริมทางสังคมจากผู้ใหญ่
-ความสนใจของผู้ที่มีต่อเด็กนั้นสำคัญมาก
-มีแนวโน้มจะเพิ่มพฤติกรรมที่ดีของเด็ก และมักเป็นเป็นผลในทันที
-หากผู้ใหญ่ไม่สนใจพฤติกรรมที่ดีนั้นๆ ก็จะลดลงและหายไป
หลักการให้แรงเสริมในเด็กปฐมวัย
-ครูต้องให้แรงสริมที่ที่เด็กมีพฤติกรรมอันพึงประสงค์
-ครูต้องละเว้นความสนใจทันที่และทุกครั้งที่เด็กแสดงพฤติกรรมที่ไม่พึ่งประสงค์
-ครูควรให้ความสนใจเด็กนานเท่าที่เด็กมีพฤติกรรมที่พึ่งประสงค์
การแนะนำหรือบอกบท
-ย่องาน
-ลำดับความยากง่ายของงาน
-การลำดับงานเป็นการเสริมแรงเพื่อให้เด็กค่อยๆก้าวไปสู่ความสำเร็จ
-การบอกบทจะค่อยๆน้อยลงตามลำดับ
ขั้นตอนการให้แรงเสริม
-สังเกตและกำหนดจุดมุ่งหมาย
-วิเคราะห์งาน กำหนดจุดประสงค์ย่อยๆในงานแต่ละชิ้น
-สอนจากง่ายไปยาก
-ให้แรงเสริมเฉพราะพฤติกรรมที่ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่สุด
-ไม่ลุหรือตี
การลดหรือหยุดแรงเสริม
-ครูจะงดแรงเสริมที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
-ทำอย่างอื่นและไม่สนใจเด็ก
-เอาอุปกรณ์หรือของเล่นออกไปจากเด็ก
-เอาเด็กออกจากการเล่น
การประเมิน
เพื่อน สนใจเรียนตั้งใจฟังอาจารย์สอนและอธิบายในเนื่้อหา แต่งกายเรียบร้อยสนทำงานหรือกิจกรรม
ตนเอง อาจมีการคุยบางครั้งในเวลาเรียน แต่งกายเรียบร้อย สนใจอาจารย์ทำงานเมื่อมีงานในห้องเรียน
อาจารย์ ได้อธิบายในเนื้อหาอย่างละเอียดและสามารถเข้าใจง่ายขึ้นโดยอาจารย์จะมีการยกตัวอย่างขึ้นมาเพื่อให้นักศึกษาได้ทำความเข้าใจง่ายขึ้นในการเรียน
การนำไปประยุกต์ใช้
สามารถนำเนื้อหาที่ได้เรียนมาทั้งหมดไปจัดในห้องเรียนและสามารถบูรนาการในรายวิชาอื่นๆได้และนำไปใช้กับเด็กปฐมวัยเมื่อเราไดลงมือปฎิบัติจริงจะได้นำสิ่งที่เรียนมาจากอาจารย์ไปใช้ได้เมื่อเกิดขึ้นจริง
เพื่อน สนใจเรียนตั้งใจฟังอาจารย์สอนและอธิบายในเนื่้อหา แต่งกายเรียบร้อยสนทำงานหรือกิจกรรม
ตนเอง อาจมีการคุยบางครั้งในเวลาเรียน แต่งกายเรียบร้อย สนใจอาจารย์ทำงานเมื่อมีงานในห้องเรียน
อาจารย์ ได้อธิบายในเนื้อหาอย่างละเอียดและสามารถเข้าใจง่ายขึ้นโดยอาจารย์จะมีการยกตัวอย่างขึ้นมาเพื่อให้นักศึกษาได้ทำความเข้าใจง่ายขึ้นในการเรียน
การนำไปประยุกต์ใช้
สามารถนำเนื้อหาที่ได้เรียนมาทั้งหมดไปจัดในห้องเรียนและสามารถบูรนาการในรายวิชาอื่นๆได้และนำไปใช้กับเด็กปฐมวัยเมื่อเราไดลงมือปฎิบัติจริงจะได้นำสิ่งที่เรียนมาจากอาจารย์ไปใช้ได้เมื่อเกิดขึ้นจริง